ทำเอฟเฟกต์ภาพสะท้อนเงาในน้ำด้วย Photoshop

ในบทความนี้ผมจะขอแนะนำวิธีการสร้างเอฟเฟกต์ของภาพที่สะท้อนเงาในน้ำแบบสมจริงด้วยโปรแกรมตกแต่งภาพ Photoshop กัน

ซึ่งขั้นตอนในการทำนั้นอาจจะต้องอาศัยความรู้ในการใช้งานเครื่องมือต่าง ๆ ในเมนู Effect ของโปรแกรม และจำเป็นที่จะต้องมีมุมมองที่สามารถมองเห็นได้ว่าภาพนี้เวลาสร้างเอฟเฟกต์สะท้อนเงาในน้ำแล้วมันจะสามารถออกมาได้คล้ายกับความเป็นจริงมากที่สุด เรามาเริ่มกันเลย!

ขั้นตอนที่ 1 เลือกและครอปภาพ

เลือกรูปภาพและปรับขนาดตามความเหมาะสม ในบทความนี้ผมปรับขนาดตามที่เห็นในภาพประกอบครับ ซึ่งขนาดของภาพนั้นจะมีผลอยู่มากทีเดียวเวลาที่เรากำหนดค่าเอฟเฟกต์เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องทำการทดสอบค่าเอฟเฟกต์ที่ทำหลาย ๆ ครั้งเพื่อความสมจริง เพื่อสเกลที่ได้จะได้มีความสมจริงด้วยเช่นกัน

เมื่อได้ภาพที่ต้องการแล้วก็ให้ทำการครอปภาพส่วนด้านล่างของภาพเพื่อที่เราจะได้ทำการก็อปปี้ภาพและกลับมุมในขั้นตอนต่อไป

water-refletion-by-photoshop-1

ขั้นตอนที่ 2 เพิ่มพื้นที่ Canvas

ก็อปปี้เลเยอร์ขึ้นมาใหม่ แล้วตั้งชื่อว่า “Reflection” ในเลเยอร์นี้แหละครับที่เราจะนำเอามาเป็นพื้นผิวน้ำที่เป็นส่วนของเงาสะท้อน จากนั้น เพิ่มขนาดของ Canvas กด Ctrl+Alt+c เพิ่มพื้นที่เฉพาะด้านความมสูง จากบนลงล่าง ให้มีขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า

water-refletion-by-photoshop-2

ขั้นตอนที่ 3 กลับหัวภาพที่จะนำมาเป็นพื้นเงาสะท้อน

คลิกเลือกทำงานที่เลเยอร์ Reflection แล้วไปที่เมนู Edit >> Transform >> Flip Vertical เพื่อกลับหัวของภาพในเลเยอร์ จากนั้นก็ทำการลากและจัดวางภาพให้ส่วนนของฐานภาพมาชนต่อกัน ซึ่งจะสามารถชนต่อกันได้พอดีในแคนวาสที่เรากำหนดไว้เป็นสองเท่าของภาพเดิมจากขั้นตอนที่แล้ว

water-refletion-by-photoshop-3

ขั้นตอนที่ 4 สร้างไฟล์พื้นผิว

พักไฟล์ต้นฉบับจากขั้นตอนที่ 1-3 ไว้ก่อน แล้วสร้างไฟล์ขึ้นมาใหม่ กด Ctrl+n ตั้งค่าตามภาพประกอบ โดยให้มีขนาดใหญ่กว่าไฟล์ภาพที่เราจะสร้างประมาณ 2 เท่า ค่า Resolution ก็ตั้งตามขนาดอ้างอิงของไฟล์ต้นฉบับ เราจะใช้ไฟล์นี้เพื่อสร้างพื้นผิว

water-refletion-by-photoshop-4-new-layer-for-texture

ขั้นตอนที่ 5 สร้างพื้นผิว ใส่นอยส์

ในไฟล์งานใหม่ จากขั้นตอนที่ 4 ให้เลือกสร้างพื้นผิวโดย  Filter >> Noise >> Add Noise ตั้งค่าตามภาพประกอบ

water-refletion-by-photoshop-5-add-noise-at-texture

ขั้นตอนที่ 6 สร้างพื้นผิว ปรับเบลอ

ใส่ฟิวเตอร์ Filter >> Blur >> Gaussian Blur ตั้งค่า Radius ประมาณ 5-6 พอ

water-refletion-by-photoshop-6-add-gaussian-blur-in-texture-document

ขั้นตอนที่ 7 สร้างพื้นผิว ปรับ Curves

ปรับความต่างของเม็ดสี ด้วย Curves โดยไปที่เมนู Image >> Adjustments >> Curves ให้ปรับค่าตามภาพประกอบด้านล่าง

water-refletion-by-photoshop-7-curves-at-texture-doc

ขั้นตอนที่ 8 สร้างพื้นผิว เพิ่มฟิลเตอร์เอฟเฟกต์

ใส่เอฟเฟกต์จาก Filter Gallery โดยไปที่ Filter > Filter Gallery และเลือกฟิลเตอร์จาก Sketch folder เลือกใช้ Bas Relief ปรับค่าตามตัวอย่างภาพด้านล่าง

water-refletion-by-photoshop-8-add-filler-sketch-bas-relief

ขั้นตอนที่ 9 สร้างพื้นผิว เพิ่ม Motion Blur

ขั้นตอนนี้เราจะเพิ่มความเคลื่อนไหวให้กับพื้นผิวที่เราสร้าง โดยไปที่ Filter >> Blur >> Motion Blur เลือกปรับค่าต่าง ๆ ตามภาพ องศาเป็น 0 ปรับ Distance เป็นประมาณ 35 px

water-refletion-by-photoshop-9-motion-blur

ขั้นตอนที่ 10 ผสานภาพต้นฉบับกับไฟล์พื้นผิว

เมื่อเราสร้างพื้นผิวจากไฟล์ใหม่เสร็จแล้วในขั้นตอนที่ 9 จากนั้นให้เราทำการลากไฟล์ภาพพื้นผิวที่เราเพิ่งสร้างเสร็จ เอามาโยนใส่ในไฟล์ต้นฉบับภาพของเราครับ ง่าย ๆ แค่คลิกเลือกแล้วลากมาที่หน้าต่างของอีกไฟล์ได้เลย เมื่อโยนมาใส่แล้วก็ตั้งชื่อมันว่า “Texture”

water-refletion-by-photoshop-10-move-texture-doc-to-original-artwork

ขั้นตอนที่ 11 ปรับขนาดของเลเยอร์ texture

คลิกเลือกทำงานเลเยอร์ Texture กด Ctrl+t เพื่อปรับขนาด หรือคลิกเมาส์ขวาก็ได้ แล้วเลือก Transform เลือก Perspective จากนั้นก็ทำการปรับ ย้ายภาพมาให้เป็นมุมมองของ Perspective โดยส่วนบนปรับให้แคบพอดีกับกรอบของ Canvas และลดระดับให้พอดีกับเส้นเชื่อมต่อของกึ่งกลางภาพ โดยอ้างอิงจากเลเยอร์ Reflection

ส่วนด้านล่างให้ ทำการถ่างขยายออกมาให้กว้างกว่า Canvas 3-4 เท่า อ้างอิงทำตามภาพประกอบ ซึ่งผลที่ได้จะเป็นตามภาพด้านล่างนี้ เสร็จแล้วก็กดปุ่ม Enter เพื่อยืนยันเสร็จสิ้น

water-refletion-by-photoshop-11-use-perspective-tranform

ขั้นตอนที่ 12 ครอปภาพ

กด c เพื่อครอปภาพให้มีขนาดตาม Canvas ปกติ

water-refletion-by-photoshop-12-crop-texture-layer

ขั้นตอนที่ 13 ก็อปปี้เลเยอร์ Texture

คลิกเลือกทำงานที่เลเยอร์ Texture แล้วกด Ctrl+j เพื่อ Duplicate เลเยอร์ (ก็อปปี้เลเยอร์นั้นแหละ) จากนั้นในช่อง Destination ก็คลิกตั้งชื่อเลเยอร์เป็น “Ripple Texture” และเลือก Document เป็น New หลังจากนั้นก็กด OK

water-refletion-by-photoshop-13-duplicate-texture-layer-to-ripple-texture

ขั้นตอนที่ 14 จัดการกับไฟล์ Ripple Texture

จากขั้นตอนที่ 13 เราจะได้ไฟล์ใหม่ขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งไฟล์คือ “Ripple Texture” คราวนี้ก็เปิดมันขึ้นมา และก็ ทำการตัดโดยไปที่เมนู Image >> Trim เลือก Transparent Pixels

water-refletion-by-photoshop-14-image-trim-ripple-texture-doc
water-refletion-by-photoshop-15-trim-option

ขั้นตอนที่ 15 เซฟไฟล์ Ripple Texture

เรายังอยู่ในไฟล์ Ripple Texture นะครับ เมื่อทำตามขั้นตอนที่ 14 เสร็จแล้วก็ให้เราเลือก Save เป็นไฟล์ ตามไดเรกทอรี่ที่เราต้องการ แต่ต้องจำให้ได้นะครับว่าเราเซฟไว้ที่ไหน เพราะเราจะต้องทำการเรียกใช้งานมันในขั้นตอนต่อไป สำหรับในบทความนี้ผมก็เซฟไว้ที่หน้าจอเลย

water-refletion-by-photoshop-16-save-ripple-texture

ขั้นตอนที่ 16 จัดการกับเลเยอร์ Reflection

กลับมาทำงานที่ไฟล์ต้นฉบับครับ ง่าย ๆ ปิดตา Texture Layer

water-refletion-by-photoshop-17-close-eye-symbol-texture-layer

คลิกเมาส์ขวาที่เลเยอร์ Reflection จากนั้นเลือกเปลี่ยนคุณสมบัติเลเยอร์เป็น Convert to Smart Object

water-refletion-by-photoshop-18-right-click-convert-to-smart-layer

ยังทำงานอยู่ที่เลเยอร์ Reflection อยู่นะครับ! ไปที่เมนู Filter >> Filter Gallery. เลือก Glass filter ซึ่งอยู่ในโฟลเดอร์ Distort ปรับเต่งตามภาพครับ

ในช่องเมนูของ Texture จะมีปุ่มด้านข้างเล็ก ๆ ให้เราคลิกเพื่อทำการ Load Texture เมื่อคลิกที่ปุ่มนี้แล้ว โปรแกรมจะให้เราเลือกไฟล์ของพื้นผิวที่เราสร้างไว้ ซึ่งในที่นี้เราได้ทำไว้แล้วในขั้นตอนก่อนหน้า ก็ให้เราเลือกไฟล์ ที่ชื่อว่า Ripple Texture ที่เราเซฟเอาไว้เมื่อขั้นตอนที่ผ่านมา เราจะได้พื้นผิวที่มีลักษณะบิดงอเหมือนผิวน้ำ

water-refletion-by-photoshop-19-filter-distort-glass

ขั้นตอนที่ 17 ปรับ Soft Light ใน Texture Layer

เปิดตาเลเยอร์ Texture ปรับ blending mode เป็น Soft Light ปรับค่าความโปร่งใส Opacity เป็น 18%

water-refletion-by-photoshop-20-show-eye-texture-layer-softlight

ขั้นตอนที่ 18 สร้างเลเยอร์ใส่สีบรรยากาศ

สร้างเลเยอร์ขึ้นใหม่อีก 1 เลเยอร์ ตั้งชื่อว่า “Color” ใส่สี โดยให้เน้นอ้างอิงสีจากบรรยากาศของสภาพท้องฟ้า อากาศ บรรยากาศ ของภาพถ่ายของเรา ผมใช้สีฟ้า เมื่อใส่สีในเลเยอร์เสร็จแล้ว ให้ลากเลเยอร์ Color ลงมาไว้ให้อยู่ด้านล่าง เลเยอร์ Texture และอยู่ด้านบนเลเยอร์ Reflection จะได้ตามภาพประกอบ

water-refletion-by-photoshop-21-color-layer

ขั้นตอนที่ 19 Clipping Mask Layer

คลิกเลือกทำงานเลเยอร์ Color จากนั้นกดปุ่ม Alt ค้างไว้ พร้อมกับคลิกเมาส์ซ้าย ตรงเส้นขั้นระหว่าง เลเยอร์ Color กับเลเยอร์ Reflection สังเกตุตัวลูกศรเมาส์จะเปลี่ยนเป็นลักษณะชี้ลง เสร็จแล้วให้คลิกเพื่อทำการสร้าง Clipping Mask Layer ทั้งสองเลเยอร์เข้าด้วยกัน

water-refletion-by-photoshop-25-opacity

กดปุ่ม d เพื่อเซ็ตค่าสี คลิกเลือกทำงานที่เลเยอร์ Color คลิกเลือกที่ Layer >> Layer Mask >> Reveal All

water-refletion-by-photoshop-23-use-mask-layer

ใช้เครื่องมื่อ Gradient Tool หรือกด g แล้วลากการไล่สีเพื่อลบครึ่งบนของเลเยอร์ Color ให้มีแค่ส่วนของสีฟ้า เหลือเท่าพอดีกับเลเยอร์ Reflection เท่านั้น

water-refletion-by-photoshop-24-gradient-mask

ปรับค่าความโปร่งใส Opacity ของเลเยอร์ Color เหลือเพียง 25%

water-refletion-by-photoshop-25-opacity

ขั้นตอนที่ 20 ปรับแสง สี ด้วย Curves

ใกล้เสร็จแล้วครับ! ต่อไปเรามาปรับสีสัน ให้พอเหมาะตามต้องการกัน ผมใช้งาน Layer >> New Adjustment Layer >> Curves ปรับตามภาพครับ ซึ่งอันที่จริงมันไม่กฎตายตัว เรียกว่าเอาตามที่เราชอบแล้วกัน

water-refletion-by-photoshop-26-curves

ขั้นตอนที่ 21 ปรับ Black & White

ผมเลือกใช้งาน Layer >> New Adjustment Layer >> Black & White เพื่อปรับค่าความเข้มของความขาวและดำในภาพ ปรับ Blending mode เป็น Soft Light และปรับค่าความโปร่งใส opacity เหลือเพียง 40%

water-refletion-by-photoshop-27-black-and-white

ขั้นตอนที่ 22 ปรับ Vignette effect

ปิดท้ายด้วย Vignette effect คือปรับขอบมุมของภาพให้ดูน่าสนใจขึ้นตามนี้ สร้างเลเยอร์ใหม่ ไว้บนสุด ใส่สีขาว ตั้งชื่อว่า “Vignette effect”

water-refletion-by-photoshop-28-vignette-effect

ใช้งาน Filter >> Lens Correction ลองปรับค่าตามใจชอบดูครับ หรือใช้การตั้งค่าส่วนต่าง ๆ จากภาพประกอบด้านล่างก็ได้

water-refletion-by-photoshop-30-len-correction

ภาพสำเร็จ! จากการทำเอฟเฟกต์ภาพสะท้อนเงาในน้ำด้วย Photoshop

water-refletion-by-photoshop-finish-resize

ราคาเริ่มต้น

3,500 บาท

ราคาจะสามารถแจ้งให้ทราบได้เมื่อได้รับรายละเอียดงานที่ต้องการเบื้องต้น

ลูกค้าเตรียมข้อมูลดังนี้
เพื่อประเมินราคาจัดทำ

  1. ต้องการงานสไตล์ไหน?
  2. ต้องการให้มีรูปภาพ สัญลักษณ์ในโลโก้?
  3. ข้อความที่ต้องการใส่
  4. ต้องการโทนสีอะไร?
  5. ตัวอย่างรูปแบบสไตล์งานเพื่อเป็นแนวทาง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

ไลน์ไอดี phpinlove

ติดต่อ Line ID : phpinlove