เลือกดินสออย่างไรให้เหมาะสำหรับงานวาดภาพลายเส้น

“ดินสอ” สิ่งนี้อยู่กับเรามานมนานกาเล ผมไม่ได้มาเล่าถึงประวัติของมันนะ แต่ผมกำลังจะมาแนะนำวิธีการเลือกใช้งานดินสอ ให้เหมาะสำหรับการวาดภาพลายเส้น Drawing (ดรออิ้ง) นั้นเอง ซึ่งผมคิดว่าใครหลาย ๆ คนก็คงจะพยายามที่จะหาดินสอซักด้ามหนึ่งเพื่อที่จะนำมาใช้งานวาดรูป และอยู่กับเราเป็นคู่บุญบารมีกันไปนาน ๆ หรือที่ภาษาชาวบ้านเขาเรียกกันว่า “มันเหมาะมือ” และใช้ไปจนรู้ใจกัน

ก่อนที่เราจะเลือกดินสอ เรามาดูสิ่งที่สำคัญกันก่อนดีกว่า สิ่งนี้มันก็คือ งานที่เราจะนำไปใช้ สไตล์การวาดของเรา ไม่ว่าเราจะมีดินสอไปเพื่อใช้เขียนข้อความในสมุด หรือจะใช้มันเพื่อวัตถุประส่งค์ใดก็ตามแต่ ทุกวัตถุประสงค์นั้นมันจะมีข้อจำกัด มีข้อบ่งชี้เฉพาะของการใช้งานเสมอ ในบทความนี้ผมจะพูดถึงสิ่งที่ผมถนัดนะ นั้นก็คือเอามันมาใช้วาดภาพลายเส้นนั้นเอง

ข้อบ่งชี้ที่ผมต้องการในการวาดภาพลายเส้นในแบบฉบับของผมนั้นมีไม่กี่อย่างครับ ซึ่งดินสอที่ผมเลือกใช้งานจะต้องสามารถตอบโจทย์ตรงนี้ให้ได้

  1. ต้องสามารถลงน้ำหนักได้มากที่สุด นั้นก็คือถ้าถมดำ สิ่งที่ได้จะต้องดำจริง ๆ
  2. สามารถไล่น้ำหนักได้อย่างง่ายดาย
  3. สามารถเก็บรายละเอียดได้ ในระดับที่ต้องการ
  4. ไม่ทำให้ภาพที่วาดเกิดการสะท้อนความเงา
  5. ต้องไม่เปราะง่ายหรืออ่อนแอ ไม่ทนไม้ทนมือเท่าที่ควร

ที่นี้เมื่อผมมีวัตถประสงค์ที่ต้องการแล้ว สิ่งต่อมาที่ผมจะทำก็คือการออกไปยืนค้นหาหน้าตู้เครื่องเขียนที่มีดินสอหลากหลายยี่ห้อละลานตา ผมไม่เถียงครับว่าจริง ๆ แล้วมันก็จะมีเพียงไม่กี่ยี่ห้อหรอกที่มีให้เราเลือกจริง ๆ แต่คุณเชื่อมั้ย!? ว่าถึงแม้ว่ายี่ห้อจะเหมือนกัน อยู่ในตู้เดียวกัน วางอยู่ข้างกันแท้ ๆ ราคาเท่ากัน แต่มันกลับมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน

เลือกดินสอสำหรับงานวาดภาพลายเส้น (Drawing Pencils)
เลือกดินสอสำหรับงานวาดภาพลายเส้น (Drawing Pencils)

ยกตัวอย่างเช่น ดินสอ Staedtler เบอร์ EE เหมือนกัน ยี่ห้อเดียวกัน แต่บางแท่งมีความเป็นเงา (สะท้อนเงา) อยู่สูง แต่บางแท่งกับมีความด้านที่เหมือนถ่านเหมือนแท่งชาโคล (Charcoal) อันนี้แค่ยกตัวอย่างนะครับ และมันไม่ได้หมายถึงแค่ยี่ห้อ Staedtler อย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็น Derwent หรือ Pyramid หรือ Renaissance ฯลฯ เป็นเหมือนกันหมด ซึ่งอันนี้เราต้องยอมรับอยู่หนึ่งอย่างว่ามันเป็นที่วัตถุดิบที่ใช้ในการทำดินสอ รวมถึงระดับของคุณภาพที่บริษัทผู้ผลิตยี่ห้อนั้น ๆ ใส่ใจไม่เท่ากัน EE ของเกรดนักศึกษา จะเทียบเท่ากับ EE Charcoal แท้ ๆ ด้ามละสามร้อย ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าด้ามละสามร้อยแพง ๆ คุณภาพมันจะสมดุลเหมือนกันทุกด้านเช่นกัน ซึ่งอันนี้แหละ มันเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ครับ ที่เราจะต้องไปยืนอยู่ที่หน้าตู้สินค้า และเพ่งพินิจในรายละเอียดให้ได้ตามที่เราต้องการ

สามารถลงน้ำหนักได้มากที่สุด นั้นก็คือถ้าถมดำ สิ่งที่ได้จะต้องดำจริง ๆ

“ดำในดำ ในความมืดดำของภาพวาดก็ยังคงมีรายละเอียดที่ซุกซ้อนและสามารถมองเห็นได้ในที่สุด” นั้นคือการวาดภาพที่มีการใส่ใจในการเก็บรายละเอียดและมีเนื้อหาให้เราได้แสดง รวมทั้งมันยังแสดงให้ผู้ที่มองภาพนั้นได้พบว่าศิลปินที่วาดภาพนั้นมีความรู้และความสามารถด้านการวาดเขียนได้อย่างถ่องแท้ แน่นอนที่อุปกรณ์ที่สามารถลงน้ำหนักเข้ม ๆ ได้อย่างถึงที่สุด มันย่อมตอบโจทย์ได้มากกว่า ความเข้มของ EE รวมไปถึงแท่งชาโคล (Charcoal) จะสามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้เป็นอย่างดี

การไล่น้ำหนักความเข้มของดินสอที่ใช้ในงานวาดภาพลายเส้น (Drwing)
การไล่น้ำหนักความเข้มของดินสอที่ใช้ในงานวาดภาพลายเส้น (Drawing)

สามารถไล่น้ำหนักมือได้อย่างง่ายดาย

เราเคยได้เรียนรู้มาว่าการไล่น้ำหนักในภาพอย่างน้อย ๆ ที่สุดควรจะมีการไล่น้ำหนัก ให้ได้ไม่น้อยกว่า 3 ระดับ และยิ่งเราสามารถไล่น้ำหนักได้มากกว่า 3 ระดับขึ้นไป มันก็จะช่วยให้ผลงานของเรานั้นออกมาเนียนตาและสมจริงมากที่สุด เพราะฉะนั้นดินสอที่ดีควรรองรับแรงมือกดได้มากกว่า 3 ระดับ ซึ่งข้อนี้ ดินสอ HB จนถึง 4B ไม่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน โอเค! มันอาจจะทำได้ แต่คุณรู้มั้ยว่ามันก็จะไม่สามารถที่จะตอบโจทย์ที่ว่า “สามารถลงน้ำหนักแบบเข้มสุด ๆ ดำสุด” ได้อยู่ดีนั้นแหละ เพราะฉะนั้นตัวเลือกในข้อนี้ ก็คือดินสอที่มีความเข้มระดับ 6B ถึง EE เท่านั้น

การเก็บรายละเอียดของดินสอที่ใช้งานวาดภาพลายเส้น
การเก็บรายละเอียดของดินสอที่ใช้งานวาดภาพลายเส้น

เก็บรายละเอียดได้ในระดับที่ต้องการ

การวาดภาพที่สมบูรณ์แบบมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการไล่โทนน้ำหนักหรือโครงสร้างที่แม่นเป๊ะ! เพียงอย่างเดียว หากแต่สิ่งหนึ่งที่เรามักจะละเลยมันก็คือ Details หรือการเก็บรายละเอียดของภาพ ไม่ว่ารายละเอียดนั้นจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ การเลือกดินสอเพื่อเก็บรายละเอียดตรงนี้มันย่อมบอกเป็นนัย ๆ อยู่แล้วว่าดินสอที่เราใช้งานจะต้องมีความแหลม ในระดับเท่ากับภู่กันเบอร์ 0 (ศูนย์) และยังเอามาตัดขนมันจนเหลือเพียงแค่ไม่กี่เส้น เพื่อที่จะนำมาเก็บรายละเอียดหรือนำมาตัดเส้นในงานจิตรกรรมลายไทย ลายรดน้ำ การเหลาดินสอให้มีความแหลมอยู่เสมอเพื่อการเก็บรายละเอียดจึงมีบทบาทมากในเรื่องนี้ โดยปกติเรามักจะเสียเวลาในการเหลาดินสอไปซะมากเพราะส่งใหญ่เราจะใช้ดินสอเพียงแท่งเดียวในการวาดภาพลายเส้นซักหนึ่งภาพตั้งแต่ต้นจนจบ แต่สำหรับผม ดินสอกด ที่มีการเลือกใส้ดินสอความเข้มระดับ 4-6B เป็นตัวเลือกที่เข้าท่ามากทีเดียว ผมจึงไม่ต้องมาเสียเวลาเหลาดินสอให้เมื่อย ไม่เชื่อลองใช้มันดูซิ

ความแตกต่างของดินสอที่ใช้วาดภาพลายเส้น ที่มีความด้าน และความมันเงาที่แตกต่างกัน
ความแตกต่างของดินสอที่ใช้วาดภาพลายเส้น ที่มีความด้าน และความมันเงาที่แตกต่างกัน

ดินสอที่ดีต้องไม่ทำให้ภาพเกิดการสะท้อนความเงา

ภาพวาดนะครับ! ไม่ใช่งานปริ้นอิงค์เจ็ต! ที่มีน้ำหมึกโซเว้นท์ (Solvent) หรือน้ำมันลินซีด (Linseed oil) ในภาพสีน้ำมันเป็นส่วนผสม เรากำลังพูดถึง “Charcoal” หรือ “ถ่าน” ที่มันถูกนำมาเป็นส่วนสำคัญของการทำดินสอ และเป็นหัวใจสำคัญของงานวาดภาพลายเส้นดินสอ คุณสมบัติของถ่านที่ดีจะต้องไม่แสดงถึงการสะท้อนความเงา เคยเจอไหมครับภาพที่วาดแล้วมันดูเหมือนเงา ๆ สะท้อนแสงออกมาทั้ง ๆ ที่เป็นภาพวาดดินสอดำ ๆ มันดูไม่ดีเอาซะเลยครับและมันจะทำให้อารมณ์ของความเป็นงานวาดเส้นหมดไปในทันที แต่เรื่องนี้อันที่จริงแล้วเราก็คงห้ามศิลปินหรือผู้วาดไม่ได้ เพราะผมเชื่อว่าน่าจะมีหลาย ๆ คนเช่นกัน ที่ชอบในความเป็นเงา ๆ ของภาพ ของไส้ดินสอในแนวแบบนี้ ซึ่งอันนี้ก็คงต้องแล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคลกันไปแต่ถ้าใครที่ต้องการความด้านและหลงเสน่ห์ของความเป็นถ่าน ก็คงต้องเลือกดินสอที่ผลิตจากถ่านแท้ ๆ และเจือปนกับกาวอัดแน่นหรือสารเคลือบอื่น ๆ ให้น้อยที่สุด

ต้องไม่เปราะง่ายหรืออ่อนแอจนเกินไปไม่ทนไม้ทนมือ

กำลังวาด ๆ สานเส้นอยู่อย่างเมามัน จู่ ๆ ดินสอหัก! ครั้งแล้วครั้งเล่า ต้องมานั่งเหลาใหม่อยู่เป็นสิบ ๆ รอบกว่าภาพจะเสร็จ มันเสียอารมณ์อย่างมากครับ พูดเลย! แต่ผมไม่ได้หมายความว่าไม่ให้มันไม่หักนะครับ ไม่ใช่! เพราะโดยธรรมชาติของดินสอแล้ว ที่มันทำมาจากผงถ่านอัดแน่นมาหรือทำมาจากแท่งถ่านก็ตาม มันย่อมเปราะบางเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นการหักของดินสอเมื่อเจอแรงกดหรือการกระชากด้วยความเร็วและแรงมากเกินไป มันย่อมหักเป็นธรรมดา แต่หักง่ายตั้งแต่ตอนเหลาซึ่งยังไม่ได้เริ่มเขียนอันนี้มันก็เกินไป การเลือกดินสอสำหรับโจทย์ความต้องการนี้ เราคงหลีกเลี้ยงไม่ได้ที่จะเลือกดินสอที่ไม่ผสมสารเคลือบอะไรเลย เพราะถ้าเป็นดินสอถ่านแท้ ๆ ที่ไม่ผสมสารเคลือบมา มันจะค่อนข้างเปราะบางมาก ๆ แต่ถ้าเกิดเราเลือกดินสอที่มีสารเคลือบมาเยอะ มันอาจจะไม่หักง่ายก็จริงแต่มันก็จะทำให้เกิดความเงาสะท้อนกับแสงขึ้นมาอีกในผลงานของเรา เพราะฉะนั้นหนทางในการแก้ปัญหาตรงนี้ผมคิดว่ามันน่าจะอยู่ที่น้ำหนักมือของผู้วาดล้วน ๆ ครับ รวมถึงการเก็บรักษาดินสอคู่ใจของเราด้วย อย่าเก็บมันในกล่องที่มีพื้นที่ว่างทำให้เวลาพกไปไหนมาไหนแล้วมันเลื่อนกระแทกกับขอบกล่องได้ อันนี้แหละที่จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้ดินสอของเราเปราะบาง เพราะหักใน!

จะสังเกตุได้ว่า ดินสอที่มีส่วนผสมของเนื้อถ่านล้วน ๆ เป็นชาโคลจริง ๆ นั้นค่อนข้างจะมีราคาแพง และเปราะง่าย ส่วนดินสอในเกรดตามท้องตลาดหรือในร้านเครื่องเขียนทั่วไปนั้น ก็จะมีสารเคลือบมาในตัวเพื่อให้ดินสอนั้นมีความทนทาน ทนไม้ทนมือ ไม่เปราะง่าย แต่การตอบสนองต่อผลงานที่เราจะได้รับก็จะแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ทั้งหมดทั้งมวลผมไม่ได้ระบุหรือไม่ได้เชียร์ดินสอในยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง แต่ผมพยายามที่จะบอกว่า ให้เน้น! และยืนดูอยู่หน้าตู้ของเหล่าแท่งดินสอที่เราจะเลือกซื้อเอาไว้นาน ๆ และไม่ต้องเขินอายที่จะหยิบมันขึ้นมาเปรียบเทียบแบบด้ามต่อด้าม เพื่อสังเกตุแต่ละด้ามว่ามันจะเป็นไปตามที่ใจเราต้องการหรือไม่เท่านั้น แต่อย่าให้ถึงขนาด ลองใช้ไปยืนทดลองเขียนบนกระดาษทดสอบมากจนเกินงามนะครับ สินค้าของเขาอาจจะมีตำหนิได้ในที่สุด 55

ส่วนตัวของผมนั้น ดินสอที่ผมใช้ทำงานอยู่ก็จะมีหลายด้ามมากในการใช้วาดภาพภาพหนึ่ง ผมมี EE Renaissance Drawing Pencil , Derwent Charcoal และ ก็ดินสอกดของ Rotring ที่มีอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปครับ